ปิติ เพชรดำ : “ในการทำงานออกแบบตกแต่ง อันดับแรกผมจะดูเรื่อง “ความสบาย” ก่อน คำว่า สบาย หมายถึง ความสบายกาย - สบายใจ ของผู้อยู่อาศัยที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่นั้นๆ หากเป็นงานที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างและมีโอกาสทำงานร่วมกับสถาปนิกตั้งแต่ต้น ผมจะเริ่มจากการปรับสภาพแวดล้อมภายในของอาคารนั้นๆ ด้วยการเข้าไปมีส่วนร่วมในการออกแบบจัดองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม เช่น หน้าต่าง ประตู ช่องลม ช่องแสง เพราะสิ่งเหล่านี้คือการทำให้ “ข้างใน” มันสบายด้วยตัวของมันเองก่อน มันเป็นการแก้ปัญหาด้วยข้างในก่อน แล้วงานอินทิเรียร์อื่นๆ ค่อยตามมา สร้างสรรค์ สภาพแวดล้อม สุขสบาย คือ 3 คำ ที่เป็นหัวใจในการทำงานของเรา” คุณปิติ ผู้ก่อตั้งบริษัท Pilaster Studio Design แชร์วิธีคิดในการทำงานของเขาให้เราฟัง
เวลาจะออกแบบตกแต่ง ผมจะไปดูพื้นที่ตั้งแต่ตอนลงเสาเข็มเลย ไปดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นว่ามันมีอะไรที่ส่งผลกระทบไปข้างในบ้านบ้าง เช่น หน้าต่าง ตำแหน่งห้องหรือตัวบ้าน เพื่อดูว่าเวลาเราวางผังห้องมันจะโอเคไหม วางตามแนวนั้นแล้วมันสบายไหม เช่น มันเป็นด้านที่ร้อนหรือเปล่า หน้าต่างน้อยไป/อยู่ต่ำไปหรือเปล่า เหมาะกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเจ้าของบ้านไหม ถ้าไม่...ผมก็จะขอให้มีการเจาะ/เพิ่ม/ย้าย พวกผนัง ประตู หรือหน้าต่าง (ตามข้อจำกัดของตัวอาคารและไม่ผิดกฏหมาย) คือ เราต้องออกแบบตกแต่งบ้านให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนที่อยู่ ไม่ใช่ว่าผู้อยู่ต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปตามสภาพบ้านที่เจ้าของโครงการออกแบบไว้ให้
“ทุกห้องในบ้านสำคัญหมด....แต่ห้องที่เราใช้เวลากับมันมากที่สุด คือ ห้องที่เราต้องใส่ใจให้เยอะที่สุด เราต้อง list พฤติกรรมหรือกิจกรรมที่เราทำในห้องนั้นๆ ออกมาก่อน แล้วมันจะนำไปสู่การเลือกอุปกรณ์ประกอบซึ่งก็คือเฟอร์นิเจอร์ และก่อนจะเอาเฟอร์นิเจอร์มาลง เราก็ต้องจัดสภาพแวดล้อมของห้อง ดูประตู ดูหน้าต่าง ดูหลอดไฟที่มีอยู่ตรงนั้น เช่น ในห้องนั่งเล่น...ถ้าเราเป็นพนักงานออฟฟิศ เราจะอยู่บ้านแค่ช่วงเย็น และวันเสาร์อาทิตย์ ถ้าเป็นแบบนี้ เรื่องของแสงสว่างจากธรรมชาติอาจไม่มีผลเลย ถ้าเรากลับบ้านสองทุ่มตลอด”
บางคนอาจบอกว่า งานอินทิเรียร์เป็นเรื่องแพงแต่ ผมอยากให้มองว่าวิชาชีพนี้ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ผมไม่ได้พูดถึงความหรูหรา แต่กำลังหมายถึงมันเป็นงานที่ “ทำให้คนที่เข้าไปอยู่...เขาใช้ชีวิตได้สบายขึ้น...อยู่แล้วรู้สีกสบายขึ้น” ซึ่งนี่คือ งานที่แท้จริงของคนที่เป็นอินทิเรียร์ดีไซน์เนอร์
-
-